ที่เที่ยววันหยุดยาว หลากหลายสไตล์ให้คุณได้เลือกเช็กอิน และเที่ยวได้อย่างมีความสุข ใครที่กำลังวางแผนหาที่เที่ยววันหยุดยาวนี้ เข้ามาดูกันได้เลย
ในแต่ละปีจะมีวันหยุดยาวต่อเนื่องกันอยู่ไม่กี่ครั้ง ช่วงนี้หลาย ๆ คนนอกจากจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดแล้วก็คงหนีไม่พ้นการไปพาครอบครัว คนรัก หรือชวนแก๊งเพื่อนไปท่องเที่ยว พักผ่อนเพื่อชาร์จแบตฯ ไปในตัว และก็คงตามมาด้วยคำถามยอดฮิต...ไปเที่ยววันหยุดยาวที่ไหนดี ?? อ๊ะ ๆ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ใครที่มียังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยววันหยุดยาวที่ไหน ตามเรามาทางนี้เลย เพราะเราได้รวมสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดยาวเจ๋ง ๆ จากทั่วประเทศไทยมาแนะนำกัน ใครชอบแบบไหนลิสต์ไว้แล้วเตรียมตัวพุ่งตรงไปกันได้เลย
1. เขาใหญ่

ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดฮิต ขับรถไม่นาน เดินทางสะดวก อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลายประเภท ทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ฟาร์มเลี้ยงวัว, ไร่งอุ่น, สวนกล้วยไม้, น้ำตก และภูเขา พร้อมด้วยที่พักหลากหลายสไตล์ มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นเลยก็มี

จุดชมวิวสวย ๆ ที่จังหวัดพังงา อีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์สวย ๆ ท่ามกลางภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ของอ่าวพังงา ยิ่งถ้าได้มาชมวิวช่วงดึก ๆ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้า โดยการขึ้นไปยังจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นไป และมีจุดกางเต็นท์ (เสม็ดนางชีรีสอร์ท) เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้ค้างแรมดูดาว โรแมนติกสุด ๆ อีกด้วย
3. มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีลักษณะเป็นกลุ่มเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่บนเนินเขา รูปร่างสวยงามชวนแปลกตา และจากบริเวณลานมอหินขาว สามารถมองเห็นแนวเทือกเขา ผืนป่าเขียวขจี ท่ามกลางอากาศสดชื่นและเย็นสบาย และบริเวณรอบ ๆ ลานมอหินขาวยังมีกลุ่มลานหินอื่น ๆ เช่น ลานหินเจดีย์โขลงช้าง, ลานหินต้นไทร และจุดชมวิวเขาหัวนาค เป็นต้น
4. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ภาพจาก iamtripper / Shutterstock.com
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้าฝน กับการเฝ้าชมดอกกระเจียวบานสะพรั่ง ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง และอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะเข้าเที่ยวชมดอกกระเจียวในช่วงเช้า เพราะจะได้เห็นสายหมอกสีขาวนวลบาง ๆ ท่ามกลางดอกกระเจียวนับพัน บานสวยสะพรั่งทั่วทั้งผืนฝ่า และที่สำคัญดอกกระเจียวจะบานเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น
5. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเพชรบูรณ์ อากาศเย็นสบายเกือบจะตลอดทั้งปี แถมยังเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยิ่งมาช่วงหน้าหนาวก็ยิ่งฟินมากกว่าเดิม และในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา ให้ได้ถ่ายภาพความสวยงาม หรือจะนอนกางเต็นท์ดูดาวตอนกลางคืนก็ชวนโรแมนติกอยู่ไม่น้อย
6. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

ภาพจาก Santi.m / Shutterstock.com
อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่มากมาย มีทะเลหมอสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เฝ้าชื่นชม เขาค้อมีที่เที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระตำหนักเขาค้อ, จุดชมวิวยอดเขาย่า, จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ, วัดผาซ่อนแก้ว, อ่างเก็บน้ำรัตนัย และจุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ เป็นต้น
7. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยวภูสอยดาวคือการได้มาชมทุ่งดอกหงอนนาค (ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปี) ซึ่งในปี 2561 ภูสอยดาวเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 - 15 มกราคม 2562 สำหรับเส้นทางพิชิตลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าป่าเป็นระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ใครที่ชอบกิจกรรมแอดแวนเจอร์ คงต้องเตรียมร่างกายไว้ให้พร้อมกันแล้ว
8. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ใครที่ไม่อยากเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ในช่วงหน้านาว แนะนำว่ามาเที่ยวดอยอินทนนท์หน้าฝน ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างเส้นทางธรรมชาติ "อ่างกา" ที่นี่คุณจะเพลิดเพลินไปกับความสุมบูรณ์ของธรรมชาติ เช่น ข้าวตอกฤาษี, กุลาบพันปี, มอสส์, เฟิร์น และนกอีกหลากหลายสายพันธุ์ และฟินไปกับทะเลหมอกหน้าฝน ลอยละล่องคลอเคลียขุนเขา สวยและมีเสน่ห์อย่าบอกใคร
9. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

หลายคนรู้จักดอยแม่สลองในฐานะที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนจีนฮ่อ ที่มีชื่อว่า "หมู่บ้านสันติคีรี" ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับการปลูกชาอู่หลง นอกจากนี้บนดอยแม่สลอง ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี, สุสานนายพลต้วน และไร่ชา101 เป็นต้น
10. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงาม โดยระหว่างทางขึ้นยังไปภูชี้ฟ้า จะพบแปลงปลูกป่านางพญาเสือออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นเสี้ยวดอกขาวรอบภูชี้ฟ้าจะออกดอกบานเต็มเชิงเขา ดูสวยงามจับตา
11. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก Osaze Cuomo / Shutterstock.com
อยู่ในส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย โอบล้อมด้วยขุนเขาเขียวขจี แถมยังอากาศดีเกือบตลอดทั้งปีอีกด้วย ภายในม่อนแจ่มมีพื้นที่ทำการเกษตรเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ของโครงการหลวง ทั้งผัก ผลไม้ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์หวาน (พันธุ์หวาน 80) พันธุ์กรอบ (อมเปรี้ยวเล็กน้อย) สมุนไพร รวมไปถึงดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมและเก็บภาพความประทับใจกันได้ตามสบาย
12. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ โอบล้อมด้วยภูเขาและสายน้ำ รอยยิ้มผู้คนเป็นมิตร วิถีชีวิตชาวบ้านเรียบง่าย กระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขาใหญ่น้อยที่ล้อมรอบเรียงรายอยู่โดยรอบ สิ่งหนึ่งที่เป็นเสมือนไฮไลท์ของที่นี่ นั่นคือ นาข้าวขั้นบันไดกว้างไกลสุดสายตา อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น วัดป่าแดด, วัดกองกาน, วัดกองแขก, สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง, สวนป่าแม่แจ่ม และหมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก เป็นต้น
13. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

หนึ่งในยอดดอยของเชียงใหม่ที่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติ การขึ้นไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นอกจากร่างกายต้องแข็งแรงแล้ว ใจยังต้องพร้อม แต่ใครได้ลองขึ้นไปแล้ บอกเลยว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปพิชิตยอดดอยเชียงดาว ต้องทำการขออนุญาตจากทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาวเสียก่อน เพราะจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
14. อำเภอปัว จังหวัดน่าน

อำเภอน่าเที่ยวของจังหวัดน่าน ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่สูง วิวสวย อากาศดี ผู้คนน่ารักและเป็นกันเอง และถ้าใครมาเที่ยวในช่วงฤดูทำนา เราก็จะเห็นนาข้าวเขียวขจี ห้อมล้อมด้วยสายหมอกบาง ๆ อำเภอปัวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายที่ เช่น วัดภูเก็ต, ร้านกาแฟตูบนาไทลื้อ & ตูบนากาแฟ, วังน้ำปัว และโรงเรียนชาวนา เป็นต้น
15. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ตั้งอยู่ในโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี ถือเป็นช่วงหน้าเทศกาลที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวปางอุ๋งเป็นจำนวนมาก ไฮไลต์ที่นี่คือการได้เห็นภาพของหมอกยามเช้าบนผิวน้ำเหนือทะเลสาบ พร้อมกับอากาศเย็น ๆ บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกแบบสุด
16. ดอยตุง จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาว แต่เดิมเป็นเพียงเทือกเขาหัวโล้น จนภายหลังเกิดโครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมีการปลูกป่าคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติ ชาวบ้านหันมาทำการเกษตร ปลูกพืชผักเมืองหนาว ทำไร่กาแฟ งานหัตถศิลป์พื้นเมือง จนสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไปโดยปริยาย
17. วนอุทยานภูลังกา จังหวัดพะเยา

แหล่งชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองพะเยา ยิ่งในช่วงหน้าหนาวจะมีบรรยากาศที่สวยงามมาก หมอกสีขาวลอยอย่างละมุนละไม โอบล้อมภูเขาหินปูน และสะท้อนแสงสีทองของพระอาทิตย์ในยามเช้าได้อย่างงดงามสุด ๆ อีกทั้งอากาศยังบริสุทธิ์ สูดเข้าปอดได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายได้อย่างดีทีเดียว
18. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

โบราณสถานสำคัญ ที่ยังคงปรากฏร่องรอยพระราชวังและสัดสำคัญในสมัยยุคสุโขทัย ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ "วัดมหาธาตุ" งดงามด้วยศิลปะสุโขทัยขนานแท้ รวมถึงยังมีแหล่งโบราณคดีเครื่องปั้นดินเผา ภายในอุทยานมีอาณาเขตที่กว้างขวาง แนะนำให้ขับรถเที่ยวชม เพราะจะได้ไม่เหนื่อย หรือเพื่อน ๆ คนไหนสนใจนั่งรถรางพร้อมวิทยากรบรรยายก็สามารถทำได้ หรือจะเป็นออกแรงปั่นจักรยานเพื่อเสพบรรยากาศข้างทางด้วยตนเองก็ไม่ว่ากัน
19. ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี

ทะเลบัวแดงที่สวยและใหญ่ที่สุดของเมืองไทย จะบานสะพรั่งในทุก ๆ ฤดูหนาว ท่ามกลางบึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ใครที่ไม่อยากพลาดชมความสวยงาม แนะนำว่าให้มาช่วงเช้า ๆ (เวลา 06.00-09.00 น.) โดยช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ จะมีปริมาณบัวเยอะที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถโดยสารเรือของชาวบ้านที่ให้บริการนักท่องเที่ยวได้เลย
20. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
21. คลองปากประ จังหวัดพัทลุง

คลองทางการเกษตรสำคัญของจังหวัดพัทลุง เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวคลองปากประ มักนิยมมาในช่วงเช้า เพื่อชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า กับยอยักษ์ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวถ่ายเก็บไว้แทนความประทับใจหลากหลายมุม
22. เชียงคาน จังหวัดเลย

ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com
ใครอยากลองมาสัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ ต้องมาเที่ยวที่ "เชียงคาน" บรรยากาศสุดชิลริมฝั่งแม่น้ำโขง เงียบสงบและเรียบง่าย รายล้อมด้วยบ้านไม้เก่า สนุกไปกับการเดินเลือกซื้อสินค้า งานศิลปะพื้นเมือง ศิลปะร่วมสมัย เสื้อผ้าที่ระลึก และร้านอาหารที่มีของกินให้เลือกหลากหลาย เช่น ข้าวจี่ทอด ข้าวจี่ย่าง กุ้งทอด ไอศกรีมโบราณ ซาลาเปาปุยฝ้าย ข้าวเกรียบว่าว ชา กาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
23. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากการมาชมภาพเขียนสี ดูน้ำตก และเดินป่าขึ้นไปยังจุดชมวิวแล้ว ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ยังเป็นช่วงที่ดอกไม้จะผลิบานอวดดอกสวยเต็มลานหินด้วย ช่วยสร้างสีสันให้กับอุทยานแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย และเดินป่าไม่ไหวแต่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบประทับใจ
24. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

ตั้งอยู่ที่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ล้อมรอยด้วยวิวภูเขาและธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองขอนแก่นและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งเรือเพื่อชมทัศนียภาพเหนือเขื่อน หรือจะเลือกนั่งรับประทานอาหารริมเขื่อนก็ได้เช่นกัน
25. หาดทุ่งวัวแล่น จังหวัดชุมพร

ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ทอดตัวยาวสุดสายตา ลักษณะเป็นชายหาดน้ำตื้นค่อย ๆ ลาดเอียงลงทีละน้อย เหมาะแก่การเล่นน้ำ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อน รอบหาดทุ่งวัวแว่นมากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกตามใจชอบ
26. บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อำเภอน่าเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลมากมาย มีทั้งชายหาดที่สวยงามสุดลูกหูลูกตา และมีเกาะต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการดำน้ำ จนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างแวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาด สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ วัดทางสาย เขาปักธงชัย, เกาะทะลุ และเกาะสังข์-เกาะสิงห์, ชายหาดบ้านกรูด และวัดเขาถ้ำม้าร้อง เป็นต้น
27. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

ท้องทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง ธรรมชาติบนเกาะก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การหนีลงเกาะไปพักผ่อนแบบสุด ๆ อีกทั้งยังมีที่พักสุดชิลตั้งอยู่ริมทะเลให้เลือกสรรหลากหลายแบบ มีที่เที่ยวบนเกาะพยามที่น่าสนใจมากมาย เช่น วัดเกาะพยาม, อ่าวหินขาว, อ่าวไม้ไผ่, อ่าวกวางปีบ, แหลมหิน, อ่าวมุก, เกาะขาม, อ่าวใหญ่ และอ่าวเขาควาย เป็นต้น
28. โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี

ภาพจาก Kosin Sukhum / Shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหนองคอกไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เดิมบริเวณนี้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่ด้วยแนวคิดอันยิ่งใหญ่จากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้พลิกฟื้นผืนดินที่แห้งผากหวนคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นศูนย์การเรียนด้านการปลูกพืชเกษตรในพื้นที่แห้งแล้งในปัจจุบันอีกด้วย
29. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภาพจาก Patcharakorn Pemwattana / Shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่อำเภอคีรีรัฐนิคม มีลักษณะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม โดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำและพายเรือ เพื่อชื่นชมความสวยงามของป่าพรุ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวเองก็ควรที่จะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว
30. จุดชมวิวป้อมปี่ จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอทองผาภูมิ เป็นบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม มองเห็นวิวของพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สามารถมานอนพักกางเต็นท์ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียงอย่างเส้นทางเดินเขาสันหนอกวัว ให้ได้ไปพิชิตยอดดอยชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการกันอีกด้วย
เป็นยังไงบ้างคะ เรียกได้ว่าเต็มอิ่มจุใจกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว คราวนี้ก็จะได้วางแผนเที่ยวกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ลองเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันดูนะคะ รับรองว่าทริปนี้สนุกแน่นอน ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1. เขาใหญ่

2. เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา


4. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ภาพจาก iamtripper / Shutterstock.com
5. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

6. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

ภาพจาก Santi.m / Shutterstock.com
7. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

8. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

9. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

10. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

11. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก Osaze Cuomo / Shutterstock.com
12. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

13. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

14. อำเภอปัว จังหวัดน่าน

15. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

16. ดอยตุง จังหวัดเชียงราย

17. วนอุทยานภูลังกา จังหวัดพะเยา

18. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

19. ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี

20. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ มองเห็นผืนป่าสวยงามเกินคำบรรยาย
21. คลองปากประ จังหวัดพัทลุง

22. เชียงคาน จังหวัดเลย

ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com
23. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

24. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

25. หาดทุ่งวัวแล่น จังหวัดชุมพร

26. บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

27. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

28. โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี

ภาพจาก Kosin Sukhum / Shutterstock.com
29. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภาพจาก Patcharakorn Pemwattana / Shutterstock.com
30. จุดชมวิวป้อมปี่ จังหวัดกาญจนบุรี

เป็นยังไงบ้างคะ เรียกได้ว่าเต็มอิ่มจุใจกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว คราวนี้ก็จะได้วางแผนเที่ยวกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ลองเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันดูนะคะ รับรองว่าทริปนี้สนุกแน่นอน ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น