ทริปเที่ยว 3 วัน 2 คืน ตะลอนชิลทั้งปีแบบไม่มีเบื่อ

เที่ยว 3 วัน 2 คืน ที่ไหนดี กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย ให้คุณได้ออกทริปรับความสุขและความสนุกกันเต็มที่ ที่ไหนน่าเที่ยวน่าไป เราเตรียมลิสต์เอาไว้ให้แล้ว

          ลองใครกางปฏิทินช่วงปลายปีแบบนี้ ก็จะเห็นตัวแดงบนปฏิทินอยู่เต็มไปหมด เห็นแล้วก็นึกอยากจะหาเรื่องลางานแล้วออกเที่ยวกันใช่ไหมล่ะคะ หลายคนจึงกำลังมองหาที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับทริป 3 วัน 2 คืน กันอยู่ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ใช้ช่วงเวลาว่างวันหยุด ได้หนีเรื่องยุ่ง ๆ ไปพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ นอนฟังเสียงน้ำ และสำรวจภูเขา เท่านี้ก็เป็นความสุขแบบง่าย ๆ แล้ว แต่สำหรับใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เรามีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทริป 3 วัน 2 คืน มาฝากกัน

1. เชียงคาน จังหวัดเลย

          อำเภอเล็ก ๆ เงียบสงบริมแม่น้ำโขง ระยะหลังมานี้ เชียงคาน มักกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเสพวิถีแบบสโลว์ไลฟ์ นอนมองแม่น้ำโขงไหลเอื่อย จิบกาแฟเพลิน ๆ และสำรวจวิถีชีวิตของชาวเชียงคาน รวมถึงยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดินเล่นถนนคนเดิน, เดินเล่นริมน้ำโขง, ตักบาตรข้าวเหนียว, ดูทะเลหมอกที่ภูทอก และนั่งเรือชมวิวที่แก่งคุดคู้ เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนได้ที่เชียงคาน ซึ่งก็มีที่พักให้เลือกหลากหลายรูปแบบและราคา แต่ไม่ว่าจะพักที่ไหน มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีสโลว์ไลฟ์อย่างแน่นอน

          +++ 16 เรื่องน่ารู้ก่อนไปเชียงคาน รู้แล้วจะเที่ยวสนุกแบบคูณสอง

          +++ ที่พักเชียงคาน นอนชิล ๆ ได้ใจทั้งบรรยากาศและความรู้สึก

          +++ ร้านคาเฟ่น่านั่งเชียงคาน จิบกาแฟเบา ๆ สโลว์ไลฟ์ฟินเว่อร์

2. ภูกระดึง จังหวัดเลย

          ใครที่มีใจรักธรรมชาติและการผจญภัย ลองมาเที่ยวที่ภูกระดึงกันดู อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาว

          โดยมีช่วงเปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคมของทุกปี และช่วงปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายนของทุกปี ความสนุกของการมาเที่ยวภูกระดึงอยู่ที่ การเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร ผ่านซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และหลังแป เพื่อชื่นชมธรรมชาติความสวยงามบนภูกระดึง ไม่ว่าจะเป็น้ำตก, ใบเมเปิลสีแดง, ทะเลหมอก และบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และไม่แน่ว่าคุณอาจได้เพื่อนร่วมเดินทางระหว่างทางที่ไปด้วยก็ได้นะคะ

          +++ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ 042 810 833

          +++ เที่ยวภูกระดึงให้สนุก กับ 15 ข้อน่ารู้ก่อนพิชิตยอด

3. ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี

          อีกหนึ่งที่เที่ยวเอาใจคนรักธรรมชาติ ที่นี่คุณจะได้พบกับความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ตลอดเส้นทางเดินเท้ากว่า 7-8 กิโลเมตร นอกจากผืนป่ากว้างแล้ว คุณยังจะเพลิดเพลินไปกับการชมลำธาร ถ้ำ และป่าไผ่ ยิ่งถ้าใครไปเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว คุณอาจจะได้เจอกับทะเลหมอก ณ บริเวณจุดชมวิวเขาหินกูบอีกด้วย ทั้งนี้การมาเที่ยวเขาหินกูบ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ด้วยเพราะเป็นเส้นทางเดินป่าที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เพราะไม่อย่างนั้นอาจหลงป่าได้ โดยในปี 2561 ผาหินกูบเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2561 สามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ผาหินกูบ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี

          +++ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งเพล เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว โทรศัพท์ 08 4864 9357

4. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

          อำเภอน่าเที่ยวที่ยังคงอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม แถมอากาศเย็นสบายเกือบจะตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดไกล ๆ แต่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งแค่ในอำเภอวังน้ำเขียวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลาย ทั้งภูเขา ไร่องุ่น ทุ่งดอกไม้ ฟาร์มผักปลอดสารพิษ ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ตลอดจนกิจกรรมสนุก ๆ อีกเพียบ เช่น กางเต็นท์นอนริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง, ส่องกระทิง, เยี่ยมชมฟาร์มเห็ดและเก็บผักปลอดสารพิษ และถ่ายรูปเซลฟี่กับสวนดอกไม้ เป็นต้น รับรองว่าเที่ยวเพลินแบบไม่มีเบื่อกันเลยทีเดียว

          +++ 10 ที่พักวังน้ำเขียว ราคาไม่เกิน 1,500 บาท แอบอิงธรรมชาติ สัมผัสอากาศเย็นแนบกาย


          +++ 20 ที่เที่ยววังน้ำเขียวห้ามพลาด ธรรมชาติสวยสมบูรณ์กับอากาศที่บริสุทธิ์

5. เกาะขาม จังหวัดชลบุรี

          ขอเอาใจคนรักทะเลด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่สัตหีบ ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาท่องเที่ยว ดำน้ำ และชมปะการังบนท้องเรือกระจก รวมถึงสัมผัสความสวยงามของหาดทรายสีขาวสะอาด และท้องทะเลสีฟ้าใส ซึ่งตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เกาะขามได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมทุกวัน

          การข้ามไปเที่ยวเกาะขาม

          วันจันทร์-ศุกร์ มีเที่ยวเรือไปเกาะขามตั้งแต่เวลา 09.00 น., 10.00 น. และ 11.00 น.

          วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีรอบเรือไปเกาะขามทั้งหมด 4 รอบ คือ เวลา 08.30 น., 09.30 น., 10.00 น. และ 11.00 น. ส่วนรอบเรือกลับมี 4 รอบ คือ เวลา 13.30 น., 14.30 น., 15.30 น. และ 16.30 น.

          (ดูรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ kohkham.com)
          ถึงแม้ว่าเกาะขามจะไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะได้ แต่หลังจากที่เราทำกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ เสร็จแล้ว ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในชลบุรีต่อกันได้ เช่น ไหว้พระที่เขาชีจรรย์, แวะไร่องุ่น ซิลเวอร์เลค, ชมวิวพรอาทิตย์ตกดินที่เขาพระตำหนัก เป็นต้น

          +++ 20 เรื่องน่ารู้เกาะขาม ชลบุรี ไปเที่ยวเองได้ง่าย ไม่ยากอย่างที่คิด

          +++ 24 สถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

6. ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

          แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร, น้ำตกหมันแดง, พิพิธภัณฑ์การสู้รบ, โรงเรียนการเมืองการทหาร, กังหันน้ำ, โรงพยาบาลรัฐ, ลานอเนกประสงค์, สุสาน ทปท., หมู่บ้านมวลชน และลานหินแตก เป็นต้น ตลอดจนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งนี้ยังมีจุดกางเต็นท์บริเวณหน้าที่ทำการอุทยาน มีลักษณะเป็นลานสนามหญ้ากว้างใหญ่ แวดล้อมไปด้วยทิวสนสามใบสวยงามถูกใจคนรักธรรมชาติแน่นอน

          +++ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทรศัพท์ 055 233 527

7. จังหวัดน่าน

          จังหวัดที่แสนจะมีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล มากมายด้วยขุมทรัพย์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เหมาะอย่างยิ่งแก่การมาท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุด ใครเป็นนักท่องเที่ยวสายชิล แนะนำว่าให้ลองเที่ยวในตัวเมืองน่านกันดู โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน บริเวณถนนผากอง (ตรงข้ามวัดภูมินทร์) ที่นั่นจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว รวมถึงข้อมูลเส้นทางการปั่นจักรยานเอาไว้อย่างเสร็จสรรพ หรือถ้าใครเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ลองขึ้นเขารับไอหมอกและสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านที่บ่อเกลือก็ดีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ "ลานดูดาว" จุดกางเต็นท์บนดอยภูคา ล้อมรอบด้วยวิวภูเขา พร้อมกับไอหมอกเย็น ๆ ลอยมาปะทะหน้าเบา ๆ ช่างฟินอะไรเช่นนี้

          +++ เที่ยวน่านหน้าฝน 3 วัน 2 คืน ดื่มด่ำเสน่ห์และความสุขที่ไม่รู้จบ

          +++ เที่ยวน่าน 1 วัน กับ 9 จุดเช็กอินเด่นเที่ยวหน้าหนาวแบบชิล ๆ

8. กินปู นอนโฮมสเตย์ จังหวัดจันทบุรี

          จังหวัดที่ช่วงระยะหลังมานี้คึกคักไม่แพ้จังหวัดใหญ่ ๆ เลยทีเดียว นอกจากมีที่เที่ยวทะเลเด็ด ๆ สวนผลไม้อร่อย ๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่างการพักผ่อนโฮมสเตย์ชิล ๆ พร้อมอิ่มหนำไปกับอาหารทะเลที่ทั้งสดและอร่อย ซึ่งมีที่พักให้บริการหลากหลายเจ้า โดยราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละแพ็กเกจ พร้อมด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวสนุก ๆ อีกมากมาย และก่อนเดินทางกลับ ก็อาจจะแวะเข้าไปในเมือง แวะเดินช้อปปิ้งเดินเลือกซื้อของกินอร่อย ๆ ที่ชุมชนตลาดเก่าริมน้ำจันทบูรเสียหน่อย เท่านี้ก็ชิลสุดแล้ว

          +++ กินปู จันทบุรี อิ่มอร่อย พร้อมนอนโฮมสเตย์บรรยากาศสุดคูล

9. ไร่ชา จังหวัดเชียงราย

          อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยว ใครที่อยากซึมซับบรรยากาศความชิลอารมณ์แบบต๊ะ ต่อนยอน มาเชียงรายรับรองว่าไม่ผิดหวัง และแน่นอนว่าหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเชียงราย นั่นคือ ไร่ชา แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเรียนรู้และสัมผัสวิถีแห่งไร่ชา ซึ่งที่เชียงรายเองก็มีไร่ชาน่าเที่ยวอยู่หลายที่ เช่น ไร่สิงห์ปาร์ค, ไร่ชา 101 และไร่ชาฉุยฟง เป็นต้น รวมถึงไร่ชาของเกษตรกรอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาว คุณอาจจะได้เจอเข้ากับสายหมอกบาง ๆ ลอยคลอเคลียกับใบชา แถมยังได้สูดอากาศดี ๆ ก็ดูชิลไปอีกแบบ

          +++ รวม 7 ไร่เชียงราย ไปพักร้อนกลางไร่เกษตรสวย ๆ กันเถอะ
10. เกาะช้าง จังหวัดตราด

          เก็บกระเป๋าไปนอนฟังเสียงคลื่นกันที่เกาะช้าง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีทั้งทะเล ภูเขา และน้ำตก รวมอยู่ในที่ที่เดียว ลองหลับตาแล้วนึกจินตนาการถึงเสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่ง ใต้ร่มเงาของทิวมะพร้าวที่พัดลู่ตามสายลม คงเป็นอะไรที่ชิลอยู่ไม่น้อยเลย แถมยังสะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งที่พักและร้านอาหาร ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเกาะ หรือใครที่มาเกาะช้างบ่อยแล้ว จริง ๆ ทะเลตราดยังมีเกาะที่น่าสนใจอยู่อีกเพียบ ใครมีเวลาว่าง 3 วัน 2 คืน แล้วอยากมาเที่ยวทะเล บอกเลยว่าท้องทะเลตราดไม่เคยทำให้ผิดหวัง

          +++ 10 ที่พักเกาะช้างติดทะเล นอนฟังเสียงคลื่นเพลิน ๆ ไปกี่ทีก็ถูกใจ

          +++ 16 เกาะสวยแห่งทะเลตราด เช็กอินความสุขแห่งท้องทะเลอ่าวไทย

11. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

          เขาค้อ อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ แม้ว่าจะมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่กลับสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ด้วยเขาค้อมีธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม โอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่มากมาย จึงทำให้เขาค้อมีทะเลหมอกที่สวยงามกว้างใหญ่ เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนสุด ๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรมและจุดเช็กอินให้เลือกหลากหลาย ยิ่งถ้าใครไปช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่ายิ่งเที่ยวฟินกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

          +++ เที่ยวเขาค้อ ฉบับคนมีเวลาน้อย เก็บจุดเช็กอินเด่นที่ไม่ควรพลาด

          +++ 15 ที่เที่ยวเขาค้อ เมืองประวัติศาสตร์และสายหมอกสุดตระการตา

12. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          ขุนเขาแห่งป่าฝน ผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญของภาคใต้ อุดมไปด้วยพืชพรรณมากมายหลายชนิด ทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โดยเฉพาะพบสัตว์ป่าสงวนถึง 4 ชนิด คือ เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อน และประกอบกับสภาพพื้นที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้งน้ำตก หน้าผา ถ้ำ และทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน จนได้รับฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย

          +++ เขื่อนรัชชประภา เที่ยวง่าย ๆ ไปเองก็ได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

13. เที่ยวเมืองมรดกโลก จังหวัดสุโขทัย

          จังหวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก งดงามด้วยวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงความสมบูรณ์ของศาสนสถานและโบราณสถานต่าง ๆ ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่าร้อยปี จนกลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้อยากเดินทางมาสัมผัสมนตร์ขลังของที่นี่ พลาดไม่ได้กับการมาเยือน เช่น "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย", "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรควรนายก สุโขทัย", อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย, "ถ้ำเจ้าราม" และ "ชุมชนบ้านไม้โบราณคีรีมาศ" เป็นต้น

          +++ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ตะลอนทัวร์ 10 ที่เที่ยวสุโขทัย

14. เนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

          อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ความน่าสนใจของอำเภอเนินมะปรางอยู่ที่ บรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินรูปร่างสวยแปลกตา และท้องทุ่งนากว้างสุดสายตา อากาศก็เย็นสดชื่นกำลังดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมุมสงบให้กับชีวิต แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย, จุดชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย, ภูเขาหินปูนบ้านมุง, ทุ่งทานตะวันบ้านไร่ภูตะวัน, ชมค้างคาวยามเย็นที่บ้านมุง และน้ำตกถ้ำหมี เป็นต้น

          +++ เที่ยวเนินมะปราง พิษณุโลก สวรรค์แห่งขุนเขาและไร่นากว้างใหญ่

          เป็นยังไงบ้างคะ ? พอจะมีที่เที่ยวไหนเข้าตาให้คุณเดินทางไปใช้เวลาวันหยุด 3 วัน 2 คืน ได้บ้างไหมคะ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ที่เที่ยวแต่ละที่ก็สวยงามแตกต่างกันไป หากแต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ช่วงเวลาวันหยุดนั้นอย่างมีความสุขมากน้อยแค่ไหน ว่าแล้วก็กางปฏิทินแล้วหาวันหยุดหนีเที่ยวกันสักทริปดีกว่า ^ ^


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก ผาหินกูบ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี, kohkham.com, thai.tourismthailand.org